เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 25 มี.ค.68 พ.ต.อ.คมสรร คำตุ่นแก้ว ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกรียงไกร มีแสง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อภิชาติ นามจันโท สว.สส. พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน และสายตรวจ รวมกว่า 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบระงับเหตุทำร้ายตำรวจได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ชุมชนวัดเขาคันธมาทน์ หมู่ 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณกระจกประตูหน้าบ้านแตก กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้เหนือประตูถูกทำลาย ภายในบ้านพบ น.ส.อนงค์ลักษณ์ อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านอยู่ในอาการตกใจ ที่บนพื้นลานจอดรถหน้าบ้าน พบร่องรอยการต่อสู้ มีโทรศัพท์มือถือ และเศษสร้อยทองรูปพรรณ ขาดตกอยู่ พนักงานสอบสวนได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น ทราบตัวตำรวจที่ถูกทำร้ายร่างกาย คือ ร.ต.ต.พาสกร พาชูระเบียบนา หัวหน้าตู้ยามเตาถ่าน ถูกชกต่อย และถูกจับศีรษะโขกพื้น จนมีอาการเลือดคั่งในสมอง และ ฟันหน้าบนหักหนึ่งซี่ นอกจากนี้ อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย GLOCK 19 ได้ถูกผู้ก่อเหตุนำไปด้วยส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ ด.ต.กิตติศักดิ์ อายุ 37 ปี สังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ช่วยราชการสืบตม.3 ซึ่งเป็นอดีตแฟนเจ้าของบ้าน หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋ง โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เทา หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ไปพร้อมหญิงสาวคนสนิท
ต่อมา ผกก.สภ.สัตหีบ ได้สั่งการชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่า กระทั่ง เมื่อช่วงเวลา 06.00น. ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามอบตัวยังโรงพัก สภ.สัตหีบ พร้อมนำของกลางปืนพก GLOCK 19 ที่ชิงตำรวจไป มาส่งมอบคืน โดยยังไม่ให้การแต่อย่างใดถึงสาเหตุการก่อเหตุ ทำร้ายร่างกายชิงปืนตำรวจครั้งนี้ เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหา บุกรุกเคหะสถานยามวิกาล ทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ส่วนอาวุธปืนที่ชิงไปได้นำมาคืน โดยอ้างว่าชิงไปเพราะใช้ป้องกันตัว ตำรวจจึงไม่เอาผิดในข้อหาชิงปืนตำรวจ
สอบถาม น.ส.อนงค์ลักษณ์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแฟนเก่า ที่เลิกรากันได้เกือบหนึ่งปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุในช่วง 11.30 น.วันที่ 24 มี.ค.ได้ขับรถมาหาที่บ้าน แต่ตนเองไปทำงาน กระชั่งช่วงเวลา 02.00 น.ได้วงกลับมาที่บ้านอีกครั้ง โดยมีหญิงสาวนั่งมาในรถด้วยจอดห่างบ้านออกไปราว 20 เมตร ขณะนั้น ตนเองอยู่ในบ้านไม่ได้ออกมา อดีตแฟนหนุ่มมีอาการมึนเมา พยายามจะเข้าบ้านให้ได้ สุดท้ายพังประตูจนกระจกแตก ตนเองได้หลบอยู่ในห้องไม่กล้าออกมา โทรฯแจ้งตำรวจให้มาช่วย และชาวบ้านที่เห็นก็ช่วยกันแจ้ง ไม่นานตำรวจหัวหน้าตู้ยามได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน เพื่อมาเจรจาช่วยเหลือ ก่อนมีปากเสียงกับอดีตแฟน โดยหาว่า ตำรวจที่มาเป็นเพียงตำรวจอาสามีสิทธิอะไร ซึ่งอดีตแฟนได้ทำลายกล้องวงจรปิด ก่อนเข้าไปทำร้ายร่างกายชกต่อยตำรวจที่มาระงับเหตุจนบาดเจ็บ และหลบหนีไป ซึ่งตนเองพร้อมเอาเรื่องตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด
ด้านเพื่อนบ้านเล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้มีเสียงดังโครมครามไปทั่วหมู่บ้าน เมื่อมาดูพบเห็นอดีตแฟนกำลังอาละวาดทุบประตูบ้าน จึงรีบโทรฯแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาก็เห็นภาพตอนถูกทำร้าย ซึ่งรู้สึกสงสาร แต่กลัวไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะกลัวอันตรายจากอาวุธปืน
